This is an example of a HTML caption with a link.
 

โพสต์: 13 ธันวาคม 2555     อ่าน: 27,670 ครั้ง



แพะนมและนมแพะโครงการหลวง


        มูลนิธิโครงการหลวง เริ่มมีการทดลอง เลี้ยงแพะพันธุ์นมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยครั้งแรกได้รับพันธุ์แพะ จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาจำนวน 3 ตัว เป็นพันธุ์ลูกผสมพันธุ์ซาเนน (Saanen) กับพันธุ์แองโกล นูเบียน (Anglo-Nubian) ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 กรมปศุสัตว์ ก็ได้มอบแพะพันธุ์ซาเนน พันธุ์แท้มาให้เพิ่มอีก จำนวน 5 ตัว และปี พ.ศ. 2545 องค์การ Heifer International Thailand ได้มอบพันธุ์แพะ จากประเทศจีนให้อีก จำนวน 23 ตัว ซึ่งเป็นแพะพันธุ์ซาเนนเช่นกัน ทุกท่านคงสงสัยแล้วว่า ทำไมต้องเป็นแพะพันธุ์ซาเนนด้วย ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับแพะพันธุ์นี้กันหน่อยดีกว่า

        แพะพันธุ์ซาเนน เป็นแพะพันธุ์ที่ให้ปริมาณน้ำนมสูงมาก จนกระทั่งได้รับฉายาว่า เป็นราชินีแห่งแพะนม มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีสีขาว แต่บางตัวอาจจะเป็นสีครีม หรือสีเทา มีติ่งใต้คอ 2 ติ่ง หรืออาจจะไม่มีติ่งก็ได้ ใบหูสั้นตั้งตรงชี้ไปข้างหน้า หัวมีลักษณะแบน ดั้งจมูกลาดตรง เรียวยาว แนวสันหลังตรง ขนานไปกับพื้น แพะพันธุ์นี้อาจ จะมีเขาหรือไม่มีเขาก็ได้ แต่การคัดเลือกพ่อพันธุ์ จะนิยมเลือกพ่อพันธุ์ตัวที่มีเขา เพราะมักจะพบการเป็นกระเทย ในแพะพันธุ์นี้ค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนใหญ่พบในแพะซาเนนที่ไม่มีเขา (Polled Saanen) ส่วนแม่แพะพันธุ์ซาเนนนี้มีอัตราของการคลอดลูกแฝดที่ค่อนข้างสูง โดยจะมีจำนวน ลูกต่อครอกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.9 ตัว เมื่อโตเต็มที่แพะตัวผู้มี น้ำหนักประมาณ 70-90 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 50-60 กิโลกรัม ความสูงที่วัดได้จาก หัวไหล่ประมาณ 75-90 เซนติเมตร มีเต้านมที่ใหญ่ หัวนมเป็นรูปเรียวยาว ซึ่งตรงตามลักษณะของพันธุ์แพะนมที่ดี โดยทั่วไปแพะพันธุ์นี้จะมีน้ำนมเฉลี่ยวันละ 3 กิโลกรัม มีระยะการให้นมประมาณ 250 วัน ผลผลิตน้ำนมรวมประมาณ 820 กิโลกรัม

        ถึงแม้แพะพันธุ์ซาเนนจะมีข้อดี ที่มีศักยภาพในการให้นมสูง และสามารถเลี้ยงในประเทศ เขตร้อนชื้นและเขตอบอุ่นได้ แต่ก็จะมีข้อด้อยตรงที่ ไม่ค่อยทนทานต่อสภาพความร้อน จากแสงอาทิตย์ ดังนั้นการเลี้ยงแพะพันธุ์ซาเนน ในประเทศเขตร้อนนั้น ต้องเลี้ยงขังคอกในเวลากลางวัน ที่แสงแดดกำลังร้อน หรือควรมีการเลี้ยงแบบปล่อยแปลง ในตอนเช้าและเย็นเท่านั้น แพะจึงจะให้ผลผลิตน้ำนมได้ดี ตามศักยภาพ จึงเลี้ยงได้ดีบนดอยที่มี อากาศเย็นตลอดปี ด้านลักษณะนิสัยของแพะพันธุ์นี้ ถือว่าเป็นแพะที่ฉลาด แสนรู้ มีการเรียนรู้ได้ดี สามารถฝึกฝนให้ยอมรับ การรีดนมได้ง่าย ซึ่งถือเป็นลักษณะนิสัย ที่พึงประสงค์และจำเป็นมาก สำหรับแพะนม อีกทั้งนมแพะยังมีประโยชน์ต่างๆ อีกมากมาย เช่น


1.    นมแพะมีกรดไขมันลิโนเลอิก และแอลฟาลิโนเลอิก จึงเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่ายกาย อีกทั้งยังมีกรดไขมันชนิดพิเศษ คือ คาโพรอิก คาพรีลิก และคาพริก มีสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่ายกาย และเป็นส่วนประกอบของ HDL ช่วยลดการสะสมของโคเลสเตอรอลในเส้นเลือดแดง ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือเส้นเลือดในสมองตีบ

2.    นมแพะมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Platelet Activating Acetyl Hydrolase ช่วยในการสลายสารก่อภูมิแพ้ จึงทำให้คนที่แพ้นมชนิดอื่นๆ เช่นนมวัว สามารถดื่มนมแพะได้โดยไม่เกิดอาการแพ้นม

3.    ในนมแพะมีปริมาณโปรตีน alpha-S1 casein น้อยกว่าในนมวัว เมื่อทำปฏิกิริยาในกระเพาะอาหารจะเกิดเป็นก้อนที่เรียกว่า curd ที่นิ่มกว่านมวัว จึงทำให้นมแพะย่อยง่ายและรวดเร็วเช่นเดียวกับนมแม่ โดยร่างกายสามารถดูดซึมนมแพะหมดภายใน 20-30 นาที เปรียบเทียบกับการดื่มนมวัว 2 ชั่วโมง

4.    นมแพะมีสมบัติเป็น buffering capacity มากกว่ายาลดกรดในกระเพาะอาหาร จึงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อย และยังดีต่อผิวคือช่วยปรับสภาพผิวให้สมดุลอีกด้วย

5.    มีปริมาณแคลเซียม (calcium) โพแทสเซียม (potassium) ทองแดง (copper) และซีลีเนียม (selenium) มากกว่าในนมวัว ซึ่งซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกัน โดยนมแพะมีซีลีเนียมมากถึง 2.5 เท่าของนมผง และมากกว่านมวัวที่ผ่านการพาสเจอไรซ์แล้วเกือบร้อยละ 35

6.    นมแพะประกอบด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอช่วยสร้างเซลล์ผิวหนัง เสริมสร้างระบบภูมิภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวและผมแข็งแรง วิตามินบี 1 ป้องกันโรคเหน็บชาและช่วยระบบเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย วิตามินบี 2 เสริมขบวนการให้พลังงานแก่ร่างกายและจำเป็นต่อผิวหนัง วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ วิตามินดี ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้กระดูกแข็งแรง วิตามินอี ช่วยเพิ่มการสร้างแอนติบอดี้ ช่วยสร้างเสริมการทำงานของทีเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่หลักในการป้องกันการติดเชื้อร่วมกับบีเซลล์

        จากประโยชน์มากมายที่ได้กล่าวมานั้น ทำให้มีความต้องการบริโภคนมแพะสูงมาก แต่เนื่องจากแพะนั้นให้น้ำนมปริมาณน้อยกว่าวัวมาก จึงทำให้ยังมีนมแพะไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันสถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีแพะนมทั้งสิ้นรวม 85 ตัว และทำการรีดน้ำนมเพื่อนำมาผลิตเป็นนมพาสเจอร์ไรซ์ส่งจำหน่ายยังสโมสรอ่างขางและฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวงเพื่อส่งต่อไปจำหน่ายยังร้านค้าโครงการหลวงสาขาต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีความต้องการสูงมาก ท่านใดสนใจหาซื้อได้ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ. ฝาง จ. เชียงใหม่ หรือร้านค้าโครงการหลวงทุกสาขาครับ รับรองจะติดใจ

 

นมแพะพาสเจอร์ไรซ์

 

ฟาร์มเลี้ยงแพะนม สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง


-----------------------------------------------


สุคีพ ไชยมณี  /เรียบเรียบ
งานพัฒนาและส่งเสริมปศุสัตว์ มูลนิธิโครงการหลวง /ข้อมูล





แนะนำองค์ความรู้
กาแฟอราบิก้า

กาแฟอราบิก้า

กาแฟอราบิก้า (Coffea arabica L.) เป็นพืชเครื่องดื่มที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของโลกชนิดหนึ่ง


พีช (Peach) และเนคทารีน (Nectarine)

พีช (Peach) และเนคทารีน (Nectarine)

พีชเป็นไม้ผลเขตหนาวประเภทรับประทานผลสด จะผลิใบปลายฤดูหนาว และออกดอกสีชมพู สวยงามมาก


นางพญาเสือโคร่ง

นางพญาเสือโคร่ง

นางพญาเสือโคร่งหรือกำลังเสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เปลือกสีน้ำตาลเทามีกลิ่นหอมคล้ายการบูร


การเลี้ยงไก่พื้นเมือง

การเลี้ยงไก่พื้นเมือง

ไก่พื้นเมืองเป็นสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่เลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เพราะ การเลี้ยงไก่พื้นเมืองใช้เงินลงทุนน้อย



ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ ระบบเว็บเมลสถาบัน ระบบขอรับบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่ายภายในสถาบัน