This is an example of a HTML caption with a link.
 

โพสต์: 19 เมษายน 2556     อ่าน: 81,803 ครั้ง



มาเลี้ยงกระต่ายกันดีไหม?


        กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่เลี้ยงง่าย กินอาหารไม่เลือก แพร่ขยายพันธุ์ได้เร็ว มีประสิทธิภาพในการผลิตสูง และมีวงจรในการผลิตสั้น แม่กระต่าย 1 แม่ สามารถผลิตลูกให้เนื้อเท่ากับลูกวัว 1 ตัว ใน 1 ปี กระต่ายเป็นสัตว์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย ทั้งได้เนื้อ ได้หนัง ได้ขน รวมทั้งใช้เป็นสัตว์ทดลองในการวิจัยด้านต่างๆ นอกเหนือจากการเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงามไว้ดูเล่น

        ประเภทและพันธุ์กระต่าย: กระต่ายที่เลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบันทั่วโลกมีหลายร้อยสายพันธุ์ ถ้าแบ่งตามประเภทของการใช้ประโยชน์  สามารถแบ่งออกได้เป็นกระต่ายเนื้อ กระต่ายขน กระต่ายสวยงาม และกระต่ายใช้เป็นสัตว์ทดลอง  พันธุ์กระต่ายที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป ได้แก่

1. กระต่ายพื้นเมือง (Native Breed) มีขนาดตัวเล็กโตเต็มที่ประมาณ 2 - 3 กก. โตช้า มีสีหลายสีไม่แน่นอน แต่แข็งแรง ทนทาน สืบพันธุ์ให้ลูกได้ดีแม้อากาศร้อน

2. พันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ (New Zealand Whtie) สีขาวปลอด ตาแดง ขนาดตัวปานกลาง โตเต็มที่ประมาณ 4 – 5 กก. รูปร่างสวย เนื้อมาก โตไว เป็นแม่พันธุ์ที่ดี

3. พันธุ์คาลิฟอร์เนียน (Californian) มีสีขาว ตาแดง  ยกเว้นรอบจมูก หู หางและเท้าทั้งสี่เป็นสีดำ มีขนาดตัวย่อมกว่านิวซีแลนด์ไวท์เล็กน้อย โตเต็มที่ประมาณ 3.5 – 4.5 กก. รูปร่างกลมแน่น โตไว ขนหนาแน่นอ่อนนุ่มและสั้นกว่าพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์

4. พันธุ์ชิคคา – แซท (Zika – Z)  สีขาวปลอด ตาแดง คล้ายนิวซีแลนด์ไวท์แต่มีขนาดตัวยาวใหญ่กว่า หูใหญ่กว่า และขน หนาแน่นน้อยกว่า เติบโตไว ให้ซากที่มีเนื้อมาก และหนังติดขนผืนใหญ่ โตเต็มที่มีขนาดประมาณ 4.5 – 5.5  กก.

5. พันธุ์ชินชินล่า (Chinchilla) มีสีเทา ตาดำ มีขนาดตัวแตกต่างกัน ตั้งแต่พันธุ์ขนาดเล็ก 2 กก. ถึงพันธุ์ขนาดใหญ่ 5 กก. เป็นกระต่ายที่มีความแข็งแรงทนทาน
เลี้ยงง่าย และให้หนังและขนดีพันธุ์หนึ่ง

6. พันธุ์เชคเกอร์ไจแอนท์ (Checkered  Giant) มีขนาดตัวใหญ่ รูปร่างสวย  เนื้อมาก พื้นตัวสีขาว มีแต้มสีดำบริเวณรอบจมูก ตา หู แก้ม และแนวสันหลัง โตเต็มที่ประมาณ 5 - 6 กก.

7. พันธุ์เรกช์ (Rex) เป็นกระต่ายที่มีหลายสี แต่มีลักษณะขนเฉพาะคือขนสั้นหนาตั้งตรง คล้ายกำมะหยี่ ขนาดตัวโตเต็มที่ประมาณ 3 – 4 กก.

8. พันธุ์หูตก (Lop) เป็นกระต่ายที่มีหูยาวใหญ่ มีหลายสี เลี้ยงเป็นกระต่ายสวยงาม

9. กระต่ายพันธุ์ขน (Angora) เป็นกระต่ายที่มีขนยาวนุ่มละเอียด มีสีขนกลายสีเลี้ยงเพื่อตัดขนขาย โตเต็มที่ขนาดตัวประมาณ 3 – 4 กก.

 

 

การเลี้ยง: กระต่ายเป็นสัตว์ที่สามารถเลี้ยงได้ง่าย เลี้ยงได้ทุกที่ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่สะอาด มูลเป็นเม็ดแข็งๆ แบบมูลแพะไม่มีกลิ่นเหม็นและไม่มีเสียงร้องรบกวนอาหารที่ใช้เลี้ยงสามารถเลี้ยงด้วยเศษผักเศษหญ้า และพวกใบไม้เกือบทุกชนิด รวมไปถึงใบกล้วย ใบตำลึง ผักตบชวา และไมยราพยักษ์ เสริมด้วยเศษข้าวที่เหลือในครัวเรือน แต่ถ้าจะให้กระต่ายโตไว และให้ผลผลิตสูง ควรใช้อาหารสำเร็จรูป ซึ่งมีจำหน่ายทั้งอาหารกระต่ายเอง หรืออาหารสุกรรุ่น อาหารไก่รุ่น ให้กระต่ายกินเสริม ก็จะทำให้กระต่ายแข็งแรงโตไวขึ้น โดยควรให้อาหารชนิดอัดเม็ด กระต่ายกินอาหารไม่เปลือง จะกินอาหารแค่วันละ 1 – 2 ขีด/ตัว/วัน สำหรับน้ำเป็นสิ่งที่กระต่ายจะขาดไม่ได้เช่นเดียวกับคนและสัตว์อื่นความเชื่อที่ว่าเลี้ยงกระต่ายไม่ต้องให้น้ำกิน เป็นความเชื่อที่ผิด

โรคกระต่าย: กระต่ายเป็นสัตว์ที่มีโรคแมลงรบกวนน้อย โรคที่มักจะพบได้แก่ อาการท้องเสียที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียทั่วไปหรือเชื่อบิด การรักษาใช้ยากลุ่มซัลฟา หรือยาปฏิชีวนะแก้ท้องเสียทั่วไป และโรคขี้เรื้อน ซึ่งเกิดจากตัวไรขี้เรื้อน การรักษาใช้กำมะถัน (ผง) ผสมน้ำมันพืช 1 : 2 ส่วนทา 2 – 3 ครั้งจนหาย หรือใช้ยาบี-เม็คติน ฉีดใต้ผิวหนัง 0.2-0.3 ml. ห่างกัน 2 สัปดาห์

ข้อควรระวัง:
เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ชอบกัดแทะ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไม้ทำกรงหรือภาชนะใส่อาหาร เพราะกระต่ายจะกัดแทะไม้จนกร่อนหัก เสียหายหมดถ้าใช้พวกกระถินหรือไมยราพยักษ์เลี้ยงกระต่าย ควรตัดให้กินทั้งกิ่ง กระต่ายจะได้ถือโอกาสแทะลับฟันไปด้วย และเมื่อเลี้ยงกระต่ายจนอายุได้ 4 – 5 เดือน กระต่ายก็จะโตเป็นหนุ่มสาว และพร้อมผสมพันธุ์ กระต่ายอุ้มท้องเพียง 1 เดือน และคลอดลูกครั้งละ 5 – 10 ตัว หลังจากคลอดลูก และเลี้ยงลูกไป 1- 2 เดือน ก็สามารถหย่านม และผสมพันธุ์แม่กระต่ายได้อีก ฉะนั้นปัญหาที่ควรระวังสำหรับผู้ที่เลี้ยงกระต่ายแบบเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม และสงสารไม่กล้าฆ่าหรือขายลูกกระต่ายคือ ต้องระวังอย่าปล่อยให้แม่กระต่ายผสมพันธุ์บ่อย เพราะมิฉะนั้นจากแม่กระต่ายเพียง 1 ตัว ใน 1 ปี ท่านจะมีกระต่ายที่ต้องเลี้ยง 100 ตัว!

 

ข้อมูลทางด้านชีววิทยาของกระต่าย

ข้อมูล

ค่าเฉลี่ย

ช่วงความกระจาย

ช่วงชีวิต            

(ปี)

5

3 – 13

อายุเริ่มเป็นหนุ่มสาว       

(เดือน)

4

3 - 5

อายุที่เหมาะผสมพันธุ์

(เดือน)

5

4 – 7

วงรอบการเป็นสัต

(วัน)

16

16 – 18

ระยะเป็นสัต

(วัน)

12

12 – 14

ระยะเวลาตั้งท้อง

(วัน)

31

29 – 35

จำนวนลูกต่อครอก

(วัน)

8

1 – 22

อายุลูกกระต่ายเริ่มลืมตา

(วัน)

10

9 – 12

อายุเริ่มกินอาหารแข็ง

(วัน)

21

15 – 23

อายุเมื่อหย่านม

(สัปดาห์)

6

3 – 8

ปริมาณอาหารที่กินได้ทั้งหมด

(กรัม/วัน)

150

100 - 300

อุณหภูมิร่างกาย

  (˚C)

39.1

38.6 – 39.6

 
 


ขอขอบคุณรูปภาพจาก:
market.onlineoops.com
arunsawat.com

-----------------------------------------------

สุคีพ ไชยมณี  /เรียบเรียง




แนะนำองค์ความรู้
เฮมพ์ หรือ กัญชง

เฮมพ์ หรือ กัญชง

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการใช้เส้นใยเฮมพ์เพื่อนำมาแปรรูปและใช้ประโยชน์เป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายชนิด แต่เกษตรกรยังไม่สามารถผลิตเส้นใยเฮมพ์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย


หางแมว

หางแมว

หางแมว หางกระรอก เขียวพระสุจริต เป็นไม้พุ่มใบเดี่ยว ดอกสีขาวหรือม่วงอ่อน


ผักกาดหวาน

ผักกาดหวาน

ผักกาดหวาน (Cos Lettuce, Romain Lettuce) เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเป็นกอ ลักษณะใบยาวรี ซ้อนกันเป็นช่อ ใบบางกรอบ รสชาติหวานกรอบเรียกว่า เบบี้คอส


ภูมิปัญญาการสกัดน้ำมันจากพื้ชท้องถิ่น

ภูมิปัญญาการสกัดน้ำมันจากพื้ชท้องถิ่น

ปัจจุบันภูมิปัญญาในการสกัดน้ำมันเริ่มสูญหายไป เหลือผู้เฒ่าผู้แก่ที่ทำเป็นอยู่ไม่กี่คน และบางส่วนเริ่มเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรสมัยใหม่



ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ ระบบเว็บเมลสถาบัน ระบบขอรับบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่ายภายในสถาบัน